หากว่ากุ้งลงจากท้องแม่แล้วไม่ควรแยกออกมาทันที ควรปล่อยให้อยู่กับแม่อย่างน้อย 1 อาทิตย์ก่อน ถึงแม้จะบอกยังไงว่ากุ้งแข็งแรงโดดดึ๊งๆแล้ว แต่สภาพร่างกายเขายังปรับไม่ค่อยได้ ยังทานไข่แดงและเศษอาหารของแม่อยู่เลย เสี่ยงมากๆถ้าจะไปเจอน้ำใหม่ หรือที่ๆอุณภูมิเปลี่ยนไปไว ยิ่งถ้าย้ายแล้วไปโดนสารเคมี(แพ้ง่ายเป็นพิเศษ) 30 วันที่รอคอยอาจจะเหลือเพียงน้อยนิดก้ได้
มีข้อปฏิบัติง่ายๆมาให้ทราบ ดังนี้
1. หากเลี้ยงรวมกับตัวผู้ให้แยกตัวผู้ออก
2. เอาปลาออกไปด้วย
3. ปิดตู้ให้สนิทมืดชิด(มืดสนิทยิ่งดี)
4. ยิ่งเห่อหลานยิ่งเสี่ยง ไม่ต้องไปจดจ้องเขาเพราะจะทำให้เขาเคลียด ให้ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นเลย
5. รักษาคุณภาพน้ำให้ดี ให้สะอาด (แต่ไม่ควรเปลี่ยนน้ำบ่อยหรือมากนัก หากกุ้งท้องตั้งแต่2สัปดาร์ขึ้นไปสามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำได้3-4วันหรืออาทิตย์ละ ประมาณ 10-20%ค่ะ แต่ทางที่ดีควรจะรักษาคุณภาพน้ำให้ดีที่สุด)
6. เปิดอ๊อคแรงขึ้นเล็กน้อย(เพื่อรักษาคุณภาพน้ำและอ๊อคซิเจนจะได้เข้าไปเลี้ยงไข่ได้ด้วย) แต่ต้องไม่แรงมากนะ เดี๋ยวไข่ปลิวหลุดหมด เปิดแรงขึ้นแต่แอบๆไว้ไม่ให้โดนแม่กุ้งก็ได้
7. กุ้งเวลาตั้งท้องเขาจะแทบไม่ค่อยทานอาหารเลย
ถ้าเป็นสาย P แนะนำว่าตั้งแต่กุ้งตั้งท้อง งดอาหารทุกชนิด (เพื่อให้น้ำไม่เสียไว) ใส่ใบหูกวางสัก 1-2 ใบ ไปแทนให้เขาแทะเวลาหิว (ส่วนมากแทบจะไม่สึกหลอเลย) แต่น้ำอาจจะเหลืองๆไม่ต้องตกใจ สีจะออกสีเหลืองชาเป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่ถ้าเป็นสาย C นานๆที 4-5 วันอาจจะให้อาหารสัก 2-3 เม็ดก้ได้ แต่ถ้าเขาไม่ทานเลยก้ไม่ต้องให้ น้ำเสียเปล่าๆ
8. ถ้าน้ำเสียจะเป็นอะไรไหม? ถ้าน้ำเสียหรือสกปรกจะส่งผลให้ไข่เป็นเชื้อราและไม่พัฒนาเป็นตัวอ่อนสุดท้ายกุ้งก้จะสลัดทิ้ง
9.อย่าไปจับเล่นเด็ดขาดดดดด หลายๆคนอาจจะเห็นภาพคนอื่นๆเอากุ้งที่ไข่มาจับหงายท้องโชว์ไข่อันอ้วนท้วนสมบูรณ์ อย่าได้ริทำเด็ดขาด เพราะมันอาจจะเป็นการลดจำนวนประชากรน้อยๆของท่านลงไป เพราะไม่กุ้งจะไม่ชอบมากๆ
สรุปสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดคือ "ถ้าหากกุ้งท้อง" ให้ปล่อยทิ้งไว้ (มิดชิด) เอาใบหูกวางใส่เลยไม่ต้องไปยุ่มย่ามกันมัน ใส่อ๊อคซิเจน จนกว่าลูกกุ้งจะลงเดิน แค่นั้นเองก้ทำให้ลูกกุ้งลงเดินอย่างแข็งแรงปลอดภัยค่ะ
ป.ล.แต่ก้มีบางตัวนะที่สลัดไข่โดยไม่รู้สาเหตุเช่น ท้องแรก หรืออาจจะเพราะเกิดความเคลียด หรือปัญหาอื่นๆโดยที่เราไม่ทราบ
การดูแลกุ้งระหว่างที่ตั้งท้อง
Reviewed by Crayfish
on
11:11:00
Rating: